การโคลนนิ่ง คือ กระบวนการสืบพันธุ์โดยไม่อาศัยเพศชนิดหนึ่ง โดยสิ่งมีชีวิตที่ถูกโคลนออกมาจะมีลักษณะทางพันธุกรรม โดยรวมถึงมีลักษณะทางกายภาพ เหมือนกับสิ่งมีชีวิตต้นแบบ หรือ สิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ก่อนแล้วทุกประการ โดยคำว่าโคลน นั้นมาจากภาษากรีกจากคำว่า Klone ซึ่งแปลว่า แขนง กิ่ง ก้าน โดยใช้อธิบายการแบ่งตัวแบบไม่อาศัยเพศ (Asexual) ของในพืชและสัตว์ และโดยที่คำว่า โคลน จะถูกใช้เรียกสิ่งที่ถูกโคลนออกมาจากสิ่งมีชีวิตต้นแบบ ตัวอย่างของลักษณะสิ่งมีชีวิตที่ได้จาก การโคลนนิ่ง เช่น มีเพศเหมือนกัน มีหมู่เลือดเหมือนกัน เป็นต้น หากกล่าวถึงเรื่อง การโคลนนิ่ง (Cloning) สัตว์ซึ่งปกติแล้วสืบพันธุ์โดยอาศัยเพศแล้วการโคลนนิ่ง (Cloning) คือ การสร้างสัตว์ตัวใหม่ขึ้นมาโดยไม่ใช้เซลล์สืบพันธุ์ของสัตว์เพศผู้หรืออสุจิของสัตว์เพศผู้แต่ใช้นิวเคลียสจากเซลล์เต็มวัยของเซลล์ร่างกายของสัตว์เพศอะไรก็ได้ใส่ลงไปที่เซลล์สืบพันธุ์ของสัตว์เพศเมียหรือเซลล์ไข่โดยนำสารพันธุกรรม หรือ DNA ที่มีอยู่ในเซลล์สืบพันธุ์ของเพศเมียหรือเซลล์ไข่ออกก่อน แล้วนำเซลล์สืบพันธุ์ของเพศเมียหรือเซลล์ไข่ใส่ไปในตัวเพศเมียเพื่อให้คลอดออกมา เมื่อคลอดออกมาทำให้ได้สัตว์ตัวใหม่ที่มี รูปร่าง หน้าตา ลักษณะภายนอก เหมือนกับสัตว์ตัวที่เป็นเจ้าของเซลล์เดิมเกือบทุกประการและมีพันธุกรรมเหมือนกับสัตว์ตัวที่เป็นเจ้าของเซลล์เดิมทุกประการ ถ้าเจ้าของเซลล์เป็นเพศเมียก็จะได้สัตว์ให้เป็นเพศเมีย ถ้าเจ้าของสัตว์เป็นเพศผู้จะได้สัตว์ใหม่เป็นเพศผู้ เหมือนกับเจ้าของเซลล์เดิมทุกประการ
.....................................................................................................
การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน
1.ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซต์หรือเทคโนโลยีที่ให้บริการต่างๆตามหัวข้อเหล่านั้นมาอย่างละ 3 รายการ
1.1 การประยุกต์ใช้เทคโนยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
-http://reg3.msu.ac.th/registrar/home.asp
-http://www.niets.or.th/
-http://www.enn.co.th/
1.2 การประยุกต์ใช้เทคโนยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน
-http://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans
-http://www.businessthaicenter.com/category
-http://www.pattanakit.net/
1.3 การประยุกต์ใช้เทคโนยีสารสนเทศในวิชาชีพสื่อสารมวลชน
-http://www.chiangmainews.co.th/
-http://www.thairath.co.th/
-http://www.nationmultimedia.com/
1.4 การประยุกต์ใช้เทคโนยีสารสนเทศในวิชาชีพทางอุตสาหกรรม
-http://www.thaispaassociation.com
-http://www.moac.go.th/home.php
-http://www.thaieei.com/2013/th/
1.5 การประยุกต์ใช้เทคโนยีสารสนเทศในวิชาชีพทางการแพทย์
-http://www.netterimages.com/
-http://www.ami.org/
-http://www.gcarlson.com/
1.6 การประยุกต์ใช้เทคโนยีสารสนเทศในวิชาชีพตำรวจ
-http://demo.thaipolicedb.com/
-http://www.royalthaipolice.go.th/
-http://www.sbpolice.go.th/
1.7 การประยุกต์ใช้เทคโนยีสารสนเทศในวิชาชีพวิศวกรรม
-http://www.biotec.or.th/th/
-http://www.coe.or.th/e_engineers/coeindex.php
-http://scienceroll.com/
1.8 การประยุกต์ใช้เทคโนยีสารสนเทศในวิชาชีพด้านเกษตรกรรม
-http://www.moac.go.th/home.php
-http://www.thaigreenagro.com/index.aspx
-http://www.kehakaset.com/
1.9 การประยุกต์ใช้เทคโนยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่างๆ
-http://www.tddf.or.th/
-http://www.rs.mahidol.ac.th/thai/about_faculty/ratchasuda-foundation.html
-http://www.pwdsthai.com/
2. มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่านมีอะไรบ้างบอกมาอย่างน้อย 3 อย่าง
- มีการจัดทำเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย เพื่อการติดตามข่าวสาร และหาข้อมูลต่างๆของ แต่ละคณะ
- มีบริการส่งข้อมูลข่าวสารทางมหาวิทยาลัยผ่านทางมือถือ
- ในเว็บไซต์มีการบอกข้อมูลบุคลากรต่างๆในมหวิทยาลัยและข้อมูลของคณะต่างๆ
3. ข้อ 2 จงวิเคราะห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นมาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไรบ้าง
- ทำให้เราได้ทราบข้อมูลข่าวสารผ่านทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย
- ทำให้ทราบข้อมูลของหมาวิทยาลัยและข้อมูลของคณะอื่นๆ